20-22 สิงหาคม 2568
ไบเทค กรุงเทพ

เจาะลึกเทคโนโลยี Autonomous Mobile Robot ปฏิวัติการจัดการคลังสินค้าสมัยใหม่

กับ คุณประเณตร เจริญรัตน์

(กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีทีเอ็ม จำกัด)

Industry Trends: การเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ (Logistics Industry) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) และการค้าระหว่างประเทศ แต่ก็ต้องเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน และความท้าทายต่าง ๆ เช่น ต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่ดุเดือด ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้

 

Technological Innovations: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในตลาดการแข่งขัน การบริหารจัดการคลังสินค้ายุคใหม่ จะเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ อาทิเช่น WMS (Warehouse Management System) จะเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการคลังสินค้า โดยผสานรวมเทคโนโลยี Cloud, IoT, และ AI เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวและแม่นยำยิ่งขึ้น

 

Material Handling Equipment (MHE): อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย, จัดเก็บ, ควบคุม, ป้องกันวัสดุและสินค้าต่างๆ ตลอดกระบวนการผลิต, การจัดจำหน่าย, การบริโภค, และการกำจัด ซึ่ง MHE ที่ทันสมัยและได้รับการออกแบบมาอย่างดี ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ช่วยให้การเคลื่อนย้ายและจัดเก็บสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดระยะเวลาและลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

 

Smart Factory: นี่คือยุคของโรงงานอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ AMR, กล้อง AI บนรถโฟล์คลิฟต์ และระบบ Telematics ล้วนเป็นหัวใจสำคัญที่กำลังปฏิวัติการจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้ทำงานแยกกัน แต่ผสมผสานกันเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ชาญฉลาด ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้ามีประสิทธิภาพสูงสุด

 

Autonomous Mobile Robot (AMR): หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าได้โดยอัตโนมัติ ทำให้เป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่ากว่าระบบอัตโนมัติแบบดั้งเดิม ความอัจฉริยะของ AMR คือสามารถใช้เซ็นเซอร์และแผนที่ในการสร้างเส้นทางได้เอง หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้แบบเรียลไทม์ ไม่เหมือนกับหุ่นยนต์ AGV รุ่นเก่าที่ต้องวิ่งตามแถบแม่เหล็ก ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่ามาก สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดการพึ่งพาแรงงานคนและลดความผิดพลาดได้เป็นอย่างดี

 

AI Camera Systems: ดวงตาแห่งความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การผสานรวมกล้องและเซ็นเซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในรถฟอร์คลิฟทเป็นวิธีการเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ การติดกล้องที่รถโฟล์คลิฟต์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเพิ่ม AI (Artificial Intelligence) เข้าไปทำให้มันกลายเป็น "ดวงตาอัจฉริยะ" ที่ทำได้มากกว่าการมองเห็น

  • Enhanced Safety: AI สามารถตรวจจับและจำแนกวัตถุได้ เช่น คน, สิ่งกีดขวาง หรือรถคันอื่น และส่งเสียงเตือนคนขับ หรือแม้กระทั่งสั่งให้รถหยุดอัตโนมัติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ 

  • Product Verification: สามารถใช้สแกนบาร์โค้ด/QR code บนกล่องหรือพาเลทได้ทันที เพื่อยืนยันความถูกต้องของสินค้า

  • Damage Reduction: AI ช่วยให้คนขับกะระยะและตำแหน่งของงาได้แม่นยำขึ้น ลดความเสียหายต่อตัวสินค้าและชั้นวางของ

 

Telematics Systems: สมองกลที่เชื่อมทุกอย่างไว้ด้วยกัน ถ้า AMR คือกล้ามเนื้อ และกล้อง AI คือดวงตา Telematics ก็เปรียบเสมือน "สมอง" ของการปฏิบัติการทั้งหมด เป็นระบบที่รวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ทุกชิ้น (ทั้งรถโฟล์คลิฟต์และหุ่นยนต์ AMR) แล้วนำมาแสดงผลและวิเคราะห์

  • Position Tracking/Usage Analysis: รู้ว่ารถหรือหุ่นยนต์แต่ละตัวอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ แสดงข้อมูลชั่วโมงการทำงาน, สถานะแบตเตอรี่, พฤติกรรมการขับขี่ เพื่อนำไปวางแผนการใช้งานให้คุ้มค่าที่สุด 

  • Predictive Maintenance: ระบบสามารถแจ้งเตือนเมื่อถึงรอบการซ่อมบำรุง หรือเมื่อตรวจพบความผิดปกติเล็กน้อย ช่วยลดโอกาสที่อุปกรณ์จะเสียและต้องหยุดทำงานกะทันหัน

     

Intelligent Synergy: เทคโนโลยีทั้งสามทำงานสอดประสานกัน เช่น ระบบ Telematics อาจสั่งให้หุ่นยนต์ AMR นำสินค้าไปวางรอในจุด A จากนั้นรถโฟล์คลิฟต์ที่มีกล้อง AI ก็เข้ามายกสินค้านั้นไปขึ้นรถบรรทุก โดยกล้อง AI จะช่วยยืนยันว่ายกถูกพาเลทและวางบนรถอย่างปลอดภัย ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปที่ Telematics เพื่อบันทึกสถานะแบบเรียลไทม์ การปรับใช้เทคโนโลยีเหล่านี้คือการลงทุนที่สำคัญเพื่อลดต้นทุนด้านแรงงานและอุบัติเหตุ พร้อมกับเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการแข่งขันยุคอุตสาหกรรม 4.0

 

Future Outlook: ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและค่าขนส่งมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุน Green Logistics จึงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคและคู่ค้าให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ทำให้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต้องปรับตัวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อนาคตของการจัดการคลังสินค้า คาดการณ์ว่าจะมีการผสานรวม AI และแมชชีนเลิร์นนิงเข้าไว้ด้วยกันเพื่อระบบอัตโนมัติขั้นสูงและการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ การเชื่อมโยงโครงข่ายโลจิสติกส์ระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น