บทบาทของบล็อกเชนในการเพิ่มความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในการขนส่ง

  • พลิกโฉมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยคุณสมบัติของบล็อกเชนที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ ความโปร่งใส ความปลอดภัย และการกระจายอำนาจ

  • ช่วยให้มั่นใจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ปลอดภัยและเข้ารหัสระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องลดความเสี่ยงของการจัดการหรือการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต

  • ปรับปรุงความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และความไว้วางใจของบรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในห่วงโซ่อุปทานโลจิสติกส์ รเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต

29 April, 2024
เทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพในการเพิ่มความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมการขนส่งได้อย่างมาก ด้วยการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้อมูลและการรับรองความถูกต้องของสินค้าและบริการข้ามพรมแดน ปรับปรุงความโปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมถึงบันทึกธุรกรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ จึงสร้างความไว้วางใจให้กับบรรดาผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ลดการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และเพิ่มประสิทธิภาพด้านความยั่งยืน

สิ่งที่ทำให้บล็อกเชนแตกต่างจากเทรนด์เทคโนโลยีคลังสินค้าอื่น ๆ อย่างชัดเจน คือ ทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละรายการได้รับเอกลักษณ์ดิจิทัลที่ระบุแหล่งกำเนิด รายละเอียดการผลิต การรับรอง และประวัติการเป็นเจ้าของ ช่วยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมองเห็นความโปร่งใสในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้าย ทำให้ทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีก สามารถเข้าถึงข้อมูลสถานที่และสถานะของสินค้าได้อย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ ลดความเสี่ยงของการฉ้อโกง การโจรกรรม และข้อผิดพลาด

นอกจากนี้ บล็อกเชนยังสามารถปรับปรุงการติดตามสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่ยอมรับได้ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ที่มีความละเอียดอ่อน ด้วยการติดตามแบบเรียลไทม์และรับประกันการปฏิบัติตามอุณหภูมิ บล็อกเชนสามารถช่วยลดของเสีย ความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และการสูญเสียผลิตภัณฑ์อันมีค่า


ขณะเดียวกัน บล็อกเชนยังสามารถแก้ไขความไร้ประสิทธิภาพของการขนส่งสินค้าหรือการบรรทุกแบบไม่เต็มคันรถ (LTL: Less Truck Load) โดยที่ 90% ของบริษัทรถบรรทุกทั่วโลกมีรถบรรทุก 6 คันหรือน้อยกว่า ทำให้เกิดปัญหาในการจับคู่ผู้จัดส่งกับผู้ให้บริการขนส่ง ความไร้ประสิทธิภาพนี้ส่งผลให้คนขับรถบรรทุกขับรถรวมกันเป็นระยะทาง 29,000 ล้านไมล์ต่อปี (46,670.86 ล้านกิโลเมตรต่อปี) โดยบรรทุกเพียงบางส่วนหรือตีรถเปล่า ส่งผลให้มีต้นทุนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นสำหรับผู้บริโภค ขณะที่ลักษณะการกระจายอำนาจหรือการกระจายศูนย์ (รูปแบบการทำงานที่มีการดูแลและบริหารร่วมกันเป็นวงกว้าง ไม่มีใครหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งสามารถมีอำนาจแบบเด็ดขาด) ตลอดจนความอัจฉริยะ (โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่มีการดำเนินงานอัตโนมัติ ตามสัญญาหรือข้อกำหนดที่ระบุไว้) ของบล็อกเชนสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเส้นทาง การรวมสินค้า และการเลือกผู้ให้บริการ ซึ่งช่วยลดทรัพยากรที่สูญเปล่าและลดรอยเท้าคาร์บอนได้

ไม่เพียงเท่านี้ บล็อกเชนสามารถใช้เพื่อบันทึกและติดตามการบำรุงรักษาและการบริการของยานพาหนะ เพื่อให้มั่นใจว่ายานพาหนะได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีและลดความเสี่ยงของการชำรุด ซึ่งช่วยปรับปรุงความน่าเชื่อถือของบริการขนส่งได้

ตัวอย่างบริษัทใหญ่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี คือ FedEx ได้สำรวจเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างแข็งขันเพื่อติดตามการจัดส่งและรับรองความถูกต้อง โดยได้เข้าร่วม Blockchain in Transport Alliance (BiTA) เพื่อร่วมมือกันกำหนดมาตรฐานบล็อกเชนสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่ง นอกจากนี้ Walmart ยังร่วมมือกับ IBM ในการพัฒนา Food Trust ซึ่งสร้างขึ้นบนบล็อกเชน ทำให้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์อาหารจากซัพพลายเออร์ไปยังร้านค้า ช่วยเพิ่มการมองเห็นและความรับผิดชอบทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานอาหาร

โปรดติดตามข้อมูลข่าวสารจากบล็อกของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่ออัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดในแวดวงโลจิสติกส์ทั่วโลก รวมถึงเตรียมพบกับงาน Tilog-Logistix 2024 ในวันที่ 15-17 สิงหาคม 2567 ณ ไบเทค บางนา ปีนี้จัดขึ้นในธีม "Connecting the Logistics Future" เพื่อผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการด้านโลจิสติกส์จากทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 9,000 ราย ได้ก้าวไปสู่อนาคตของโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา:





บทความที่เกี่ยวข้อง

หมายเหตุ

คณะผู้จัดงาน TILOG-LOGISTIX ขอสงวนสิทธิ์การเข้าชมงานสำหรับนักธุรกิจเท่านั้น กรุณาแต่งกายสุภาพ ไม่อนุญาตให้ผู้สวมกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ และบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชมงาน ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เหมาะสมเข้าชมงานตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องมีสาเหตุหรือคำอธิบาย